10ที่เที่ยวที่น่าสนใจห้ามพลาดที่เวียดนามเหนือ

อ่าวฮาลอง หมายถึงอ่าวที่มังกรโบราณเคยมาร่อนลงในอ่าวนี้เมืองครั้งดึกดำบรรพ์ มีความงดงามและสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง จนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่มาเที่ยวฮานอยแล้วจะต้องสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้แต่งแต้มด้วยเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตานับพันเกาะ สลับซับซ้อนเรียงตัวกันอย่างสวยงาม มีตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า เมื่อในอดีต ระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังถูกกองทัพชาวจีนรุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองกำลังมังกรเข้ามาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเล บริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะน้อยใหญ่ กระจายอยู่ทั่วอ่าวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินได้สำเร็จ และได้ก่อตั้งประเทศขึ้นมาเป็นเวียดนามในปัจจุบัน
ที่อ่าวฮาลอง นักท่องเที่ยวฮานอยสามารถล่องเรือชมถ้ำนางฟ้าหรือ ถ้ำสวรรค์ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ด้านในมีการจัดแสงสี เพิ่มความน่าสนใจให้กับหินงอกหินย้อยต่างๆ พร้อมทั้งมีทางสำหรับการเดินชมไว้ให้ด้วย มีเสาค้ำฟ้าซึ่งเกิดจากหินงอกและหินย้อยมาบรรจบติดกันจนกลายเป็นเสา ซึ่งหินงอกหินย้อยแต่ละก้อนก็จะมีลักษณะรูปร่างแตกต่างกันออกไป ตามแต่จะจินตนาการ มีความงดงามอย่างมาก
3. ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือที่เรียกกันว่า ทะเลสาบคืนดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าขานกันมาว่า ในสมัยครั้งที่กษัตริย์เวียดนามทำสงครามสู้รบกับจีนนั้น เป็นการสู้รบที่ใช้เวลายาวนานมาก และไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้สักที ทำให้เกิดความท้อแท้พระทัย เมื่อได้มาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ ได้มีเต่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งคาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ และนำไปสู้รบจนได้รับชัยชนะกลับมา เมื่อสิ้นสุดสงครามแล้ว พระองค์จึงได้นำดาบมาคืน และหากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ เรียกว่า ทาพรัว หมายถึง หอคอยเต่า และยังเป็นที่กล่าวขานกันว่ายังเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดูกาล
4. วัดหง็อกเซิน หรือ วัดเนินหยก
วัดหง็อกเซินเป็นวัดโบราณบนเกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบคืนดาบ ตั้งอยู่บนเนินหยก สามารถเดินข้ามจากฝั่งไปยังวัดโดยข้ามสะพานเทฮุก ซึ่งเป็นสะพานไม้สีแดงสดใส ที่มีความหมายอันไพเราะว่า สะพานแสงอาทิตย์ยามเช้า เป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวฮานอยมาถ่ายรูปกันมากที่สุด ภายในวัดประกอบด้วย ศาลเจ้าโบราณและ เต่าสต๊าฟขนาดใหญ่ โดยเชื่อกันว่า เต่าตัวนี้ คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 2 ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านาน ชาวเวียดนามมักเดินทางมาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดแห่งนี้กันอยู่เป็นประจำ
หลายคนมาเที่ยวฮานอยเพื่อชมประวัติศาสตร์ของเวียดนาม จะต้องมาที่ สุสานโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นอาคารหินอ่อนและหินแกรนิตรวมถึงไม้เนื้อดีจากทั่วประเทศ เป็นอาคารที่โดดเด่นและสง่างามมาก ด้านในจะพบกับศพโฮจิมินห์ ซึ่งอาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้วเพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาชมได้รู้จักผู้นำที่มีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้เป็นการกระทำซึ่งขัดต่อความต้องการของโฮจิมินห์ ที่ต้องการให้เผาร่างเมื่อตายลง ในสุสานยังมีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา ด้านหลังมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบร่มรื่นและมีสระน้ำเล็กๆ และบ้านที่สร้างบนเสาสูงซึ่งเชื่อกันว่าเคยเป็นที่อยู่ของโฮจิมินห์เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
วิหารวรรณกรรม ภาษาเวียดนามเรียกว่า วันเหมียว (Van mieu) สร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนของพวกขุนนาง และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม และยังเป็นสถานที่ใช้สอบจองหงวนในสมัยโบราณ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกว็อกช็อกเวียน (Quoc Hoc Vien) บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำ และต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ศาลเทพเจ้าขงจื้อ ซึ่งมีการวางแผนผังมาอย่างดี และภายในวิหารจะมีแผ่นหินจารึกชื่จอหงวน ซึ่งปัจจุบันได้เป็นวัดที่นักเรียนนักศึกษาชาวเวียดนามมักจะมามาขอพรในการสอบ
7. เจดีย์เฉินก๊วก และทะเลสาบตะวันตก
เจดีย์เฉินก๊วก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโฮไตซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮานอย เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเวียดนาม เป็นเจดีย์สีชมพู ไล่ระดับขึ้นไปเป็นชั้นๆ คล้ายกับเจดีย์ของญี่ปุ่น แต่ละชั้นมีพระพุทธรูปสีขาวประดิษฐานอยู่ในช่องรอบเจดีย์ และเป็นที่บรรจุอัฐิของพระที่เป็นเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้
มาเที่ยวฮานอยที่เดียวสามารถชมสถานที่สำคัญๆ หลายที่ โดยใกล้ๆ กันกับสุสานโฮจิมินห์ จะเจอกับ วัดเจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี เป็นศาลาขนาดเล็กตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว ศาลานี้อยู่กลางสระบัวรูปสี่เหลี่ยม สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่เจ้าแม่กวนอิม โดยมีตำนานกล่าวไว้ว่า พระเจ้าหลีไทโต อยากได้โอรส และรอคอยมาเป็นเวลานานมาก จนคืนหนึ่งได้ทรงสุบินว่าเจ้าแม่กวนอิมได้มาปรากฎที่สระบัวและประธานโอรสให้กับพระองค์ หลังจากนั้น พระองค์ก็ได้มีพระโอรส จึงได้สร้างเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัวเพื่อเป็นการถวายสักการะแด่เจ้าแม่กวนอิม ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะมาขอพรให้ได้บุตรกับเจ้าแม่กวนอิมที่เจดีย์เสาเดียวแห่งนี้อยู่เสมอ
9. เมืองซาปา
ที่ตั้ง : ซาปา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศเวียตนาม ใกล้กับชายแดนจีน ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร อยู่ในเขตจังหวัดลาวไค สูง 1,650 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้ดี และเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียตนาม
ในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม ในปี พ.ศ. 2465 และได้มีการสร้างสถานีภูเขาขึ้น เพราะด้วยเมืองซาปาโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี ชาวเวียตนามและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในฮานอย ก็จะหาเวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดมาที่นี่ และยังมีการทำนาขั้นบันไดมากมายท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างสวยงาม เมื่อซาปาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็มีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว มีอาคารสมัยใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก มีโรงแรม ร้านอาหารแบบตะวันตก และร้านคาราโอเกะ
10. ช้อปปิ้งถนน 36 สาย หรือ 36 เฝอเฟือง
ได้เที่ยวฮานอยชมเมืองกันหลากหลายที่แล้ว มาช้อปปิ้งกันให้สบายกระเป๋าที่ ถนน 36 สาย เป็นย่านโบราณที่มีชื่อเสียงทางด้านงานหัตถกรรมและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรุงฮานอย ซึ่งปัจจุบันมีประวัติยาวนานกว่า 600 ปี ที่เรียกชื่อแบบนี้ เนื่องมาจาก 36 อาชีพอันเก่าแก่ที่ทำมาค้าขายกันในย่านนี้ เป็นย่านค้าขายที่คึกคักด้วยสินค้านานาชนิดทั้งของกิน เสื้อผ้า และของที่ระลึกที่เป็นทั้งผ้าไหม กระเป๋า หรือเครื่องเงินที่มีลวดลายปราณีตสวยงามมากมาย โดยจะแบ่งออกเป็นถนนสายต่างๆ ทั้ง 36 สาย เช่นถนนเสื้อผ้าก็จะเป็นเสื้อผ้าทั้งสาย ให้ผู้มาเที่ยวฮานอยสามารถเดินเลือกซื้อเลือกชมกันอย่างจุใจกันไปเลย